Nintendo Switch ได้เปิดตัวเกมในตระกูล Zelda ภาคใหม่ ใน The Legend of Zelda: Echoes of Wisdom ซึ่งภาคนี้ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น “เจ้าหญิง Zelda” ตามชื่อของเกมเป็นครั้งแรก ตัวเกมจะเป็นเกมแนว RPG แอคชั่นผจญภัย ที่มีกราฟิกแบบ 3 มิติ ซึ่งเป็นกราฟิกแบบเดียวกับภาค The Legend of Zelda : Link’s Awakening Remake ปี 2019 เป็นมุมมองจากด้านบน (Top-Down) ตัวละครสไตล์การ์ตูน SD มีความน่ารักสดใสตามสไตล์ของค่ายนี้ กับเนื้อเรื่องใหม่ทั้งหมด
เนื้อเรื่อง / Story
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อลิ้งค์ได้ตามหาและพยายามช่วยเจ้าหญิงเซลด้าที่ถูกจอมมารกานอนจับตัวไปและผนึกจองจำเอาไว้ ลิ้งค์เอาชนะกานอนได้สำเร็จ ในขณะที่กานอนกำลังจะหนีเข้าไปในความมืด จู่ๆก็มีรอยแยกมิติลึกลับโผล่ออกมา เรียกว่า Rift และดูดร่างของลิงค์เข้าไปด้วย ก่อนที่จะถูกดูดร่างหายไปลิ้งค์ได้รวบรวมพลังยิงธนูใส่ผลึกที่จองจำเจ้าหญิงเซลด้าจนหลุดออกมาได้ และรอยแยกของมิติประหลาดนั้นก็เริ่มแผ่ขยายไปทั่วอาณาจักร Hyrule ดูดกลืนผู้คนรวมถึงลิ้งค์ไปยังมิติอื่นที่เรียกว่า Still World ในขณะที่เซลด้ากำลังวิ่งหนีจากรอยแยกนั้นก็ได้เก็บผ้าคลุมของลิ้งค์และมีดวงแสงลึกลับตามอออกมาด้วย
หลังจากนั้นเจ้าหญิงเซลด้าได้ไปพบกับพระราชาบิดาของเธอที่ปราสาท Hyrule แต่เซลด้ากลับถูกใส่ร้ายว่าเป็นต้นเหตุของรอยแยกและถูกรับสั่งให้นำตัวไปคุมขังไว้ที่คุกใต้ดินของปราสาท ขณะที่อยู่ในที่คุมขังดวงแสงปริศนานั้นก็โผล่ออกมา ซึ่งที่จริงแล้วก็คือภูตตัวน้อย Tri ด้วยความช่วยเหลือTri ทำให้เซลด้าสามารถหลบหนีออกมาได้ และได้รับ Tri Rod ซึ่งเป็นไม้เท้าวิเศษที่ใช้ในการผจญภัย
เซลด้าและTri เดินทางไปทั่ว Hyrule เพื่อปิดผนึกและซ่อมแซมรอยแยกมิติต่างๆ ระหว่างทางพวกเธอต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมายรวมถึงศัตรูที่คอยขัดขวาง หลังจากที่ช่วยเหลือลิ้งก์ตัวจริงออกมาจากการควบคุมของศัตรูได้ ปรากฏว่ากานอนที่ต่อสู้ด้วยนั้นเป็นแค่เพียงภาพลวงตาที่สร้างขึ้นโดย Null สิ่งมีชีวิตชั่วร้ายที่อาศัยอยู่ในความว่างเปล่า ที่มีเป้าหมายที่จะทำลายจักรวาลและกลับสู่ความว่างเปล่าที่เป็นต้นกำเนิดของมัน โดยมันพยายามดูดซับพลังงานจาก Triforce เพื่อเพิ่มพลังให้ตัวเอง
เซลด้า ลิ้งก์ และ Tri ร่วมมือกันต่อสู้และหยุดยั้งแผนการของ Null โดยมีเทพธิดาทั้งสาม Din, Nayru และ Farore คอยให้ความช่วยเหลือ หลังจากเอาชนะ Null ได้สำเร็จ รอยแยกมิติทั้งหมดก็ถูกปิดผนึก อาณาจักร Hyrule ก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
รูปแบบการเล่น / Gameplay
เมื่อตัวเอกไม่ใช่ Link แต่กลายเป็นเจ้าหญิง Zelda ทำให้หลายๆอย่างเปลี่ยนไป จากอาวุธที่ใช้ดาบ ก็เปลี่ยนเป็นคทาเวทย์มนต์ที่เรียกว่า ‘Echo’ ที่จะได้มาจากการใช้พลัง Tri Rod ของภูตน้อย Tri พลังนี้สามารถใช้โคลนหรือก๊อปปี้สิ่งของเพื่อช่วยในการต่อสู้ การแก้ปริศนาต่างๆ หรือการผ่านทางที่มีอุปสรรค เช่น การโคลนเตียงนอนเพื่อนำมาสร้างเป็นสะพาน , การโคลนเก้าอี้เพื่อนำมาใช้ปีนหน้าผา , รวมถึงสามารถเรียกมอนสเตอร์ออกมาช่วยต่อสู้เคียงข้างเราได้ สิ่งของชิ้นไหนที่เคยโคลนหรือก๊อปปี้แล้ว จะสามารถเรียกออกมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้ เราสามารถผสมผสานการ ‘Echo’ แบบสร้างสรรค์และอิสระตามไอเดียของตัวเองได้เลย
นอกจากนี้ยังมีสกิล Blind ที่เป็นการใช้ผูกมัดโยงกับสิ่งของ เช่น มัดกับก้อนหินขนาดใหญ่ที่ขวางทางเพื่อเคลื่อนย้ายมันออก , ใช้ผูกมัดหีบที่ฝังอยู่เพื่อดึงขึ้นมา , หรือใช้ลากศัตรูได้
สกิล Reverse Bond การยึดตัวเองกับสิ่งของเพื่อเคลื่อนย้ายตัวเราไปในทิศทางต่างๆ เช่น ยึดกับแท่นหินเคลื่อนที่เพื่อข้ามไปอีกฝั่ง , ยึดกับนกเพื่อบิน เราสามารถใช้สกิลต่างร่วมกันหรือจะสลับใช้ตามสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างอิสระ
ในภาคนี้หมู่บ้านและเมืองที่สำคัญในอาณาจักรถูกวางสลับสับเปลี่ยนไปมา Gerudo Desert เมืองทะเลทราย, Jabul Waters เมืองแห่งน้ำ , Eldin Volcano เมืองลาวา , Faron Wetlands วงกตป่า รวมถึงหมู่บ้าน Kakariko หรือเมืองที่อยู่ใกล้ปราสาท Hyrule ที่เป็นจุดกึ่งกลางของแผนที่ก็ถูกสลับตำแหน่งอีกด้วย ผู้เล่นสามารถเดินทางแบบ fast travel ตามจุดรูปปั้นเล็กๆบนแผนที่ , การขี่ม้าเดินทางไปมาในแผนที่ที่กว้างใหญ่
ถึงแม้ภาคนี้จะได้เล่นเป็นเจ้าหญิงเซลแป็นหลักแต่ก็ยังยังสามารถใช้พลังเพื่อแปลงเป็น ร่างนักดาบ ได้ วิธีการใช้งาน ร่างนักดาบ คือ ค้นหาหาตำแหน่งของ Rift หรือรอยแยกมิติที่ปรากฏขึ้นทั่ว Hyrule เพื่อเข้าสู่พื้นที่ รวบรวมพลังงานที่ล่องลอยอยู่ในพื้นที่ Still เพื่อเติมเกจ Sword Gauge จนเต็มจึงจะสามารถใช้พลังเพื่อเปลี่ยนเป็นร่างนักดาบได้
The legend of Zelda: echoes of wisdom
แนวเกม : RPG
ผู้พัฒนา : Nintendo
ระบบ : Nintendo Switch
วันวางจำหน่าย : 26 กันยายน 2024
